เนื่องด้วยสถานการณ์ยางพารามีราคาต่ำลง ทางหน่วยงานกรมวิชาการเกษตรได้มีการแนะนำเกษตรกร โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ภาคใต้ซึ่งเป็นแหล่งปลูกยางที่สำคัญของประเทศไทยให้หันมาปลูกพืชแซมยาง ในช่วงที่ราคายางยังคงวิกฤตอยู่ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เสริมจากการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ได้จากการปลูกพืชแซมยาง โดยอาจปลูกเป็นพืชล้มลุกที่มีอายุสั้น เช่น ข้าวโพด ฟักทอง มะเขือ และแตงโม เป็นต้น เพราะสามารถจำหน่ายและนำเงินมาหมุนเวียนได้เร็ว
วันนี้เจ้าหน้าที่บริษัท ซีดไลน์ จึงพาลงพื้นที่จ.ตรัง เพื่อไปชมแปลงแตงโมลูกผสม ชาโดว์ (SHADOW) ตราซีดไลน์ ที่เกษตรกรได้ใช้ปลูกแซมสวนยางพารา โดยแตงโม ชาโดว์ เป็นแตงโมพันธุ์เบา เหมาะสำหรับปลูกในเขตพื้นที่ร้อนชื้น และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ในระยะสั้น ใช้เวลาในการปลูกประมาณ 65-70 วัน จากการสอบถามเกษตรกรในพื้นที่ เกษตรกรได้เล่าว่าลงเมล็ดแตงโม ชาโดว์รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 3 แล้ว เริ่มเพาะเมล็ดตั้งแต่เดือนเมษายน และจะเก็บเกี่ยวผลผลิตรุ่นนี้เป็นรุ่นสุดท้าย ก่อนที่จะทิ้งช่วง เนื่องจากหลังจากนี้จะมีปริมาณน้ำฝนมาก ไม่เหมาะกับการปลูกแตงโม เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาขั้วเน่าเถายุบได้ และจะเริ่มเพาะเมล็ดแตงโมอีกครั้งในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ซึ่งสามารถสร้างกำไร มีรายได้หมุนเวียนตลอดทั้งปี เกษตรกรกล่าว
แตงโมลูกผสม ชาโดว์ (SHADOW) จะมีลักษณะผลเป็นทรงยาวรี ผิวสีเขียวเข้ม ลายเส้นสีดำ
เนื้อมีสีแดงเข้ม น้ำหนักประมาณ 5-7 กก. รสชาติหวาน อร่อย
ดังนั้นการปลูกแตงโมแซมสวนยางพารา จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับเกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งเกษตรกรไม่ควรพึ่งพารายได้จากการกรีดยางเพียงอย่างเดียว การหาแนวทางสำรองในการประกอบอาชีพเสริม เพื่อสร้างรายได้ ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นมากในช่วงที่ปัญหาราคายางยังไม่คงที่อยู่ในขณะนี้